เมล็ดเจีย (เมล็ดเชีย) คืออะไร และมีแหล่งต้นกำเนิดมาจากไหนนะ
เมล็ดเจียเป็นเมล็ดของพืชในตระกูลเดียวกับกะเพราและแมงลักหรือสะระแหน่ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องเทศ
ต้นเจียหรือต้นเชีย Chia มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Salvia Hispanica L. มีลักษณะลำต้นสูงประมาณ 4-6 ฟุต เป็นพืชที่ให้เมล็ดเล็กๆคล้ายเมล็ดแมงลัก เมล็ดจะมีสองสีคือสีดำและสีขาว เปลือกนอกเมล็ดเมื่อโดนน้ำหรือความชื้นจะสามารถพองตัวได้เหมือนเม็ดแมงลักของเราเลย
เจีย หรือ เชีย ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่นิยมปลูกกันมากในทวีปอเมริกา ซึ่งได้แก่ ประเทศเม็กซิโก โบลิเวีย เอกวาดอร์ สหรัฐอเมริกา กัวเตมาลา และในประเทศอาร์เจนตินา เจียจะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น และยังปลูกและเติบโตได้ในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย
ในประเทศไทยตอนนี้ เมล็ดเจียกำลังโด่งดังอย่างมากเช่นกัน ไทยได้มีการเพาะพันธุ์เมล็ดเจียในหลายจังหวัด พบมากที่ลำปาง กาญจนบุรี เป็นต้น
หลักฐานทางโบราณคดีค้นพบว่า เมล็ดเจียเป็นพืชที่มีอายุยาวนานกว่า 3,500 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งแต่สมัยอาณาจักรมายันและอาณาจักรแอซแท็กในทวีปอเมริกา เจีย ซึ่งมีความหมายว่า ความแข็งแรง ชาวแอซเท็กและชาวมายันนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหารหลักเหมือนเช่นกับธัญพืชอื่นๆ เช่นพวกตระกูลถั่ว ข้าวโพด พวกเขาจะนำเอาเมล็ดเจียมาบดรวมกับแป้งและคั้นเป็นน้ำมันออกมาเพื่อใช้ดื่ม หรือเอาไว้ใช้ในการปรุงอาหาร ซึ่งพวกเขามีความเชื่อว่า เมล็ดเจียมีสรรพคุณในทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกายให้มีความแข็งแรงขึ้น
ในยุคต่อมา คือยุคที่มีการล่าอาณานิคมของสเปน ทางฝั่งอเมริกาได้พ่ายแพ้และได้ตกเป็นเมืองขึ้นของสเปน ผู้นำสเปนในยุคนั้นได้ประกาศว่า ห้ามมีการเพาะพันธุ์เมล็ดเจียอีก เมล็ดเจียจึงกลายเป็นอาหารต้องห้ามในที่สุด ซึ่งได้ทำให้เมล็ดเจียค่อยๆสูญพันธุ์ จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของอเมริกาสมัยใหม่ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเจอเมล็ดพันธุ์เจีย ทำให้มีการค้นคว้าและวิจัยและได้ทราบถึงคุณประโยชน์อันมากมายนานับประการของพืชชนิดนี้ และได้มีการปลูก รวมถึงขยายสายพันธุ์ต่อมา จนกระทั่งกลายมาเป็นเมล็ดเจียหรือเมล็ดเชีย Chia seed ที่เรารู้จักจวบจนถึงทุกวันนี้
ในประเทศไทยเราสามารถทานเมล็ดแมงลักแทนเมล็ดเจียได้ ถ้าอยากให้ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก เพราะราคาถูกกว่าและหาได้ง่ายกว่า ซึ่งพอแช่น้ำแล้วก็มีความสามารถพองตัวได้เหมือนกัน แต่กระนั้นเมล็ดแมงลักก็ยังมีคุณประโยชน์เทียบเท่าเมล็ดเจียได้ยากแบบทิ้งช่วงห่างเลยจ้า
หลายคนอาจไม่รู้จักเมล็ดเจียแถมมิหนำซ้ำหลายๆคนกลับไปคิดว่าก็คือเมล็ดแมงลักซะนี่
อ่ะ.. แล้วเมล็ดเจียแตกต่างจากเมล็ดแมงลักอย่างไร มาไขข้อข้องใจกันเลย
กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา United States Department of Agriculture ได้กล่าวว่า เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super Fruit และ Super Seed ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา ซึ่งได้แก่ มีไฟเบอร์สูงมาก มีโปรตีนและกรดไขมันดีคือมีโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 มีแคลเซียมสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ เริ่ดอะไรเช่นนี้ ^^
และการนำเมล็ดเจียเต็มเมล็ดหรือที่่บดแล้วมาแช่น้ำ หรือใส่ในของเหลว เช่นใส่ในน้ำผลไม้ โยเกิร์ต ในนม เมล็ดเจียจะสามารถพองตัวขึ้นมาได้อีกตั้ง 12 เท่าเชียวนะ การเติมเมล็ดเจียลงไปจะช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องดื่มนั้นๆได้ แต่ก่อนทานควรให้เมล็ดเจียได้พองตัวเต็มทีเสียก่อน มิฉะนั้นอย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ การที่ทานเมล็ดเจียที่พองตัวไม่เต็มที่จะมีผลตรงกันข้าม เช่นแทนที่จะถ่ายคล่อง แต่กลับทำให้ท้องอืดแทนนะสิจ้ะ
มาดูกันว่าในเมล็ดเจีย Chia Seed ปริมาณเพียงแค่ 28 กรัม ให้สารอาหารอะไรบ้าง
- น้ำ 6.61 กรัม
- โปรตีน 40.32 กรัม
- ไขมัน 11.89 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 35.14 กรัม
- ไฟเบอร์ 34.4 กรัม
- แคลเซียม 150 กรัม
- ธาตุเหล็ก 14.30 กรัม
- แมกนีเซียม 362 กรัม
- ฟอสฟอรัส 810 กรัม
- โพแทสเซียม 425 กรัม
- โซเดียม 41 กรัม
- ซิงก์ 10.70 กรัม
- ไขมัน 11.89 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 35.14 กรัม
- ไฟเบอร์ 34.4 กรัม
- แคลเซียม 150 กรัม
- ธาตุเหล็ก 14.30 กรัม
- แมกนีเซียม 362 กรัม
- ฟอสฟอรัส 810 กรัม
- โพแทสเซียม 425 กรัม
- โซเดียม 41 กรัม
- ซิงก์ 10.70 กรัม
- โฟเลต 29 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 2.5 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.270 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 12.6 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.152 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 3 ไมโครกรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 5.113 กรัม
- วิตามินบี 2 0.270 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 12.6 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.152 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 3 ไมโครกรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 5.113 กรัม
- กรดไขมันไม่อิ่มตัว 4.405 กรัม
- กรดไขมันอิ่มตัว 1.634 กรัม
No comments:
Post a Comment